baccarat สูตรบาคาร่า เทคนิคเด็ดที่เอาชนะบาคาร่าได้ง่ายๆ บาคาร่า เป็นเกมส์ไพ่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในคาสิโนออนไลน์ เนื่องด้วยเป็นเกมส์ที่ไม่ต้องทำความเข้าใจมากมาย ก็สามารถเล่นได้แล้ว เพียงแค่เลือกเดิมพันว่า ฝั่งไหนจะชนะ ระหว่าง ฝั่งผู้เล่น (Player) และ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) โดยการวัดแพ้ชนะ จะวัดจากจำนวนแต้มไพ่ของแต่ละฝั่ง แต้มไพ่ฝั่งไหนมีจำนวนใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะชนะ
baccarat สูตรบาคาร่า ขั้นตอนการเล่นบาคาร่า
ขั้นตอนของการเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า จะมีดีลเลอร์ที่ทำหน้าที่ดูแลโต๊ะ ทำการแจกไพ่แบบหงายให้กับทั้ง 2 ฝั่ง จำนวน 2 – 3 ใบ จากนั้นดีลเลอร์จะทำการนับแต้มไพ่ของแต่ละฝั่ง แล้วบอกผลแพ้ชนะในรอบนั้น
สำหรับตำแหน่งการวางเดิมพันบาคาร่า ไม่ได้มีแค่ตำแหน่ง ผู้เล่น หรือ เจ้ามือ เท่านั้น ยังมีตำแหน่ง เสมอ เจ้ามือคู่ ผู้เล่นคู่ และตำแหน่งอื่นๆ อยู่อีก ซึ่งส่วนมากจะมีตำแหน่งการวางเดิมพันเพียง 5 ตำแหน่ง (เจ้ามือ ผู้เล่น เจ้ามือคู่ ผู้เล่นคู่ และ เสมอ) และในแต่ละตำแหน่งจะมีอัตราการชนะและอัตราจ่ายที่ต่างกันไป ดังนี้
- เจ้ามือ (Banker) : ตำแหน่งนี้เป็นการวางเดิมพันว่า ฝั่งเจ้ามือจะเป็นฝั่งที่ชนะ โดยจะมีอัตราจ่าย 1:1 (ไม่มีค่าคอมมิชชั่น) หรือ 1:0.95 (มีค่าคอมมิชชั่น)
- ผู้เล่น (Player) : ตำแหน่งนี้เป็นการวางเดิมพันว่า ฝั่งผู้เล่นจะเป็นฝั่งที่ชนะ โดยจะมีอัตราจ่าย 1:1
- เสมอ (Tie) : ตำแหน่งนี้เป็นการวางเดิมพันว่า แต้มไพ่ของทั้งสองฝั่งจะมีแต้มเท่ากัน โดยจะมีอัตราจ่าย 1:8
- เจ้ามือคู่ : ตำแหน่งนี้เป็นการวางเดิมพันว่า ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเจ้ามือ จะมีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน โดยจะมีอัตราจ่าย 1:11
- ผู้เล่นคู่ : ตำแหน่งนี้เป็นการวางเดิมพันว่า ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่น จะมีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน โดยจะมีอัตราจ่าย 1:11
ซึ่งทั้ง 5 ตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งวางเดิมพันหลักๆ ของเกมส์ไพ่บาคาร่าแทบทุกเว็บ แต่มีบางเว็บคาสิโนออนไลน์เท่านั้น ที่มีการเพิ่มตำแหน่งอื่นๆ เข้ามา อาทิเช่น สูง – ต่ำ หรือ ไพ่คู่ฝั่งไหนก็ได้ ฯลฯ
baccarat สูตรบาคาร่า พิชิตเงินรางวัลได้อย่างง่าย
สำหรับ สูตรและเทคนิค ในการเล่นเกมส์ไพ่บาคาร่า ก็มีมากมาย ทั้งโปรแกรมสูตร สูตรเดินเงิน การอ่านเค้าไพ่ต่างๆ นาๆ ซึ่งที่พูดมาทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มอัตราชนะในการเล่นไพ่บาคาร่า แต่ก็ไม่ทั้งหมดเสมอไปนะครับ เพราะบางสูตร บางเทคนิค อาจจะใช้ไม่ได้กับห้องบาคาร่า บางห้อง ดังนั้น เราต้องวิเคราะห์ สังเกตดีๆ ถ้าแพ้ติดต่อกันบ่อยๆ ก็ควรเปลี่ยนเทคนิค หรือ เปลี่ยนห้องที่จะใช้สูตรนะครับ
การอ่านเค้าไพ่บาคาร่า
สำหรับวิธีอ่านเค้าไพ่บาคาร่า มีรูปแบบการอ่านเค้าไพ่อยู่ 4 แบบหลักๆ นั่นคือ การอ่านเค้าไพ่ปิงปอง การอ่านเค้าไพ่มังกร การอ่านเค้าไพ่ตัวติด และ การอ่านเค้าไพ่ตัวตัด โดยการอ่านเค้าไพ่ตัวติดและตัวตัด จะแบ่งออกเป็น 2 ตัวติด/2 ตัวตัด และ 3 ตัวติด/3 ตัวตัด ซึ่งในแต่ละรูปแบบการอ่านเค้าไพ่ จะมีรายละเอียดดังนี้
1. เค้าไพ่ปิงปอง : เป็นสถิติของการออกรางวัลแบบสลับกันไปมา จนกว่าจะมีการออกรางวัลติดต่อกัน ที่ได้ชื่อเรียกว่าเค้าไพ่ปิงปอง นั่นก็เพราะ เหมือนการตีปิงปองที่ตีโต้ไปโต้มา ซึ่งเค้าไพ่ปิงปอง จะมีลักษณะดังนี้ P B P B P B …. ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะออก PP หรือ BB
2. เค้าไพ่มังกร : เป็นสถิติของการออกรางวัลแบบออกฝั่งเดียว ติดต่อกันไปเรื่อยๆ จนเรียงกันยาวคล้ายกับหางของมังกร จึงได้ชื่อเรียกว่า เค้าไพ่มังกร ซึ่งมีสถิติการออกรางวัลติดต่อกันซ้ำๆ 5 ครั้งขึ้นไป หรือมากกว่านั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการออกสลับเป็นอีกฝั่ง โดยมีลักษณะเค้าไพ่ดังนี้ P B B B B B B B . . .
3. เค้าไพ่ตัวติด : เป็นสถิติของการออกรางวัลแบบออกติดต่อกัน แล้วสลับไปมา โดยจะมีตั้งแต่ 2 ตัวติด หรือ 3 ตัวติด สลับกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีตัวมาตัด โดยเค้าไพ่นี้จะมีลักษณะดังนี้ PP BB PP หรือ BBB PPP BBB
4. เค้าไพ่ตัวตัด : เป็นสถิติของการออกรางวัลแบบออกติดต่อกัน แล้วมีตัวตัด โดยจะมีตั้งแต่ 2 ตัวติด หรือ 3 ตัวติด แล้วมีตัวมาตัด ซึ่งจะมีลักษณะเค้าไพ่ดังนี้ PP B PP หรือ BBB P BBB
สูตรเดินเงินบาคาร่า
สำหรับสูตรเดินเงิน ที่ใช้กับเกมส์ไพ่บาคาร่าก็มีมากมายหลายสูตร อาทิเช่น สูตรเดินเงินเดลองเบ , Fibonacci , พาโรลี , บาคาร่า 1324 , ลาบูเซอร์ หรือสูตรเดินเงินยอดนิยม ที่นักพนันคาสิโนใช้กันอย่างมาก อย่าง สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล ซุปเปอร์มาร์ติงเกล และ วินนิ่งมาร์ติงเกล ซึ่งสูตรทั้งหมดที่กล่าวมานั้น จะเป็นตัวช่วยในการเดินเงิน ที่ทำกำไรจากเกมส์บาคาร่า
ในบทความนี้ จึงจะมาแนะนำสูตร มาร์ติงเกล ที่มีคนใช้มากที่สุด และทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องให้ทุกท่านได้ทราบกัน ซึ่งสูตรดังกล่าว จะมีวิธีการเดินเงินดังนี้
สูตรเดินเงินมาร์ติงเกล จะมีลักษณะการเดินเงิน คือ เมื่อเดิมพันแพ้ จะเพิ่มเงินเดิมพันเป็น 2 เท่าของรอบล่าสุด ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเดิมพันชนะ และ เมื่อเดิมพันชนะ จะกลับไปเดิมพันเท่าที่ลงตาแรก โดยการทบเงินจะมี ดังนี้
- เมื่อชนะ : จะเดิมพันเท่าเดิมไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้ เช่น ตาแรกเดิมพัน 1 หน่วย เมื่อชนะ ตาต่อไปลง 1 หน่วยเท่าเดิม เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแพ้ 1 – 1 – 1 – 1 – 1
- เมื่อแพ้ : จะเดิมพันเป็น 2 เท่าของตาล่าสุด ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ เช่น ตาแรกเดิมพัน 1 หน่วย เมื่อแพ้ ตาต่อไปเดิมพัน 2 หน่วย ถ้าแพ้อีก ตาต่อไปเดิมพัน 4 หน่วย ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ 1 – 2 – 4 – 8 – 16